ทำไมเราต้องตรวจกระดูกสันหลังคด

‘กระดูกสันหลังคด’ เป็นอาการไม่พึงประสงค์ และสร้างความเจ็บปวดให้แก่คนไข้ เป็นอย่างมาก โดยในประเทศไทย พบผู้มีอาการนี้ มาก 2-3% ของจำนวนประชากรทั้งหมด สำหรับสาเหตุ 80% ของผู้ป่วยไม่อาจพบสาเหตุ หากแต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ตัว เช่น กระดูกสันหลังคด อันเกิดจาก ขายาวไม่เท่ากัน , กระดูกสันหลังคด อันเกิดจากสมองพิการ หรือเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด เป็นต้น เพศของพบป่วยสามารถพบได้เท่ากัน ทั้งในเพศชายและเพศหญิง

ตรวจกระดูกสันหลังคดรีบแก้ก่อนจะสายเกินกาล

‘กระดูกคด’ เกิดจากการที่กระดูกสันหลังโค้งงอไปทางด้านซ้าย หรือด้านขวาจนเกิดความผิดปกติ หากแต่โดยทั่วไปแล้วกระดูกสันหลังของมนุษย์ จะมีการโค้งงอไปยังด้านหน้า และหลัง ในความโค้งที่พอดีที่ความสมดุลกับร่างกาย ที่ธรรมชาติสร้างมา เพราะฉะนั้นเมื่อมองจากด้านข้าง จะเห็นเป็นรูป ‘ตัว S’ แต่ถ้ามองจากบริเวณด้านหลังจะเป็นเส้นตรง หากแต่ผู้ป่วย ซึ่งมีอาการกระดูกสันหลังคดนั้น จะมีอาการบิดออกจากด้านข้าง ซึ่งจะทำให้สะโพก , เอว และไหล่ของผู้ป่วยไม่เท่ากัน สำหรับอาการของผู้ป่วยที่เห็นได้ชัด คือ กระดูกสันหลังไม่ตรง , หัวไหล่ 2 ข้างไม่เท่ากัน ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดหลัง , เอว , คอ จนกระทั่งเกิดเรื้อรัง เพราะกล้ามเนื้อแต่ละส่วน รับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังมีอาการเหนื่อยง่าย เพราะกระดูกไปกดทับปอดนั่นเอง

การรักษา ‘ตรวจกระดูกสันหลังคด’

สำหรับวิธีรักษาในกรณีที่กระดูกคดเพียงเล็กน้อย คุณหมอจะนัดเป็นระยะๆ เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งแนะนำให้ผู้ป่วยใส่เสื้อพิเศษซึ่งมีความรัด , กระชับ ป้องกันไม่ให้คดมากขึ้น ต้องใส่ 23 ชั่วโมง/วัน การใส่เสื้อรัดรูปพิเศษนี้จะต้องใส่จนกว่าผู้ป่วยจะหยุดการเจริญเติบโต หากแต่ก็ไม่ได้ให้เลิกใส่ทันที แต่จะค่อยๆ ลดจำนวนชั่วโมงที่ใส่ลง จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่า ไม่คดมากขึ้นอีกแล้ว จึงสามารถหยุดใส่ได้

สำหรับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด จะใช้เมื่อผู้ป่วยมีอาการคดมากกว่า 45 องศา ด้วยการใช้โลหะดาม ให้ตรงขึ้น ในแนวที่จัดไว้ พร้อมลดการเคลื่อนไหวไหลประมาณ 6-9 เดือน ไม่ว่าจะเป็น การก้ม หรือ บิดตัว ก็ห้าม หลังจากนั้นจึงออกกำลังกายแบบเบาๆที่ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

สำหรับการสำรวจตนเอง ว่ากำลังมีอาการนี้หรือไม่ ให้คุณพยายามสังเกตความสูงของระดับหัวไหล่ รวมทั้งความนูนของกระดูกสะบัก ตลอดจนระดับกระดูกสะโพกของร่างกาย ที่มีระดับสูง-ต่ำไม่เท่ากัน รวมทั้งยังมีวิธีทดสอบ ด้วยการให้ยืนแบบเท้าชิดกันและก้มตัวไปด้านหน้า หลังจากนั้นพยายามใช้มือทั้ง 2 ข้างแตะให้ถึงพื้น จะเห็นได้ว่าความนูนของหลังไม่เท่ากัน โดยถ้ามีอาการผิดปกติเหล่านี้ ให้ไปปรึกษาแพทย์ทันที