เมื่อได้ยินคำว่า การผ่าตัดกระดูกสันหลัง หลายๆคนมักจะเกิดความวิตกกังวลว่ามันเป็นผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อผ่าเสร็จแล้วจะเจ็บปวดมากไหม หรือหลังจะสามารถกลับมาใช้งานได้ดังเดิมหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ ถ้าพูดถึงการ ผ่าตัดกระดูกสันหลัง ในอดีตถือเป็นการผ่าตัดที่มีความสำคัญนำหน้ากว่าการผ่าตัดชนิดอื่นๆ เนื่องจากการผ่าตัดกระดูกสันหลัง เป็นการรักษาซึ่งอาจแลกมากับอาการพิการของผู้ป่วย ที่จะตามมาหลังจากการผ่าตัด เพราะมันอยู่ใกล้กับไขสันหลังของมนุษย์ เพราะฉะนั้นทางการแพทย์ในอดีตจึงเลี่ยงการผ่าตัดให้ถึงที่สุด แต่ในปัจจุบันนี้ ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน พร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัยที่เข้ามาช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทางการแพทย์ ทำให้การผ่าตัดกระดูกสันหลังเกิดอันตรายน้อยลงกว่าในสมัยก่อนมาก โดยความเสี่ยงที่อาจเกิดการพิการแทบเป็นศูนย์เลยทีเดียว อีกทั้งการฟื้นตัวของผู้ป่วย ก็รวดเร็วกว่าในอดีตมาก ทำให้แพทย์จำนวนมาก ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วย ในเรื่องของการรักษาปัญหากระดูกสันหลังด้วยการผ่าตัดมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติเร็วขึ้นนั่นเอง ตัวผู้ป่วยจะไม่ต้องทรมานกับอาการเจ็บปวดเกินความจำเป็น อย่างที่บอกไปว่าการผ่าตัดกระดูกสันหลังถูกลดความเสี่ยงลงมาก จากการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามามีส่วนร่วมในการผ่าตัด ส่งผลให้การผ่าตัดกระดูกสันหลังมีความปลอดภัยสามารถหายห่วง และคลายความกังวลได้เลย และความแม่นยำสูงขึ้น จนศัลยแพทย์สามารถลงมือผ่าตัดได้ โดยไม่ต้องมองด้วยตาเปล่าเหมือนในอดีต เพราะฉะนั้นการเปิดแผลใหญ่จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป การผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้อง Microscope กล้อง Microscope  คือ เทคโนโลยีชั้นสูง ที่ทำให้การผ่าตัดกระดูกสันหลัง เป็นไปอย่างง่ายรวมทั้งเกิดความแม่นยำมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย , ฟื้นตัวเร็วกว่าเปิดแผลใหญ่ , มีอาการเจ็บปวดน้อยกว่า อีกทั้งแผลผ่าตัดยังมีขนาดเล็กแค่ 2-3 เซนติเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงอันตรายต่างๆ อันอาจเกิดขึ้นได้ ข้อดีคือ เสียเลือดระหว่างผ่าตัดน้อย ทำให้อาการปวดแผลหลังผ่าตัดน้อยลงRead more about การผ่าตัดกระดูกสันหลังมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด[…]

อาการป่วยจากโรคหมอนรองกระดูกเป็นโรคที่พบบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือด้วยความรู้ที่คนไทยมียังอาจน้อยเกินไปเกี่ยวกับโรคนี้ทำให้คนไทยเองอาจไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควรไม่เหมือนกับโรคมะเร็ง, เบาหวาน, ความดันโลหิต, โรคหัวใจ หรือแม้แต่โรคเอดส์ ที่คนไทยจะรู้สึกคุ้นเคยและมีการป้องกันมากกว่าโรคเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก ทว่าความอันตรายของหมอนรองกระดูกเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าที่คิดหากไม่มีการป้องกันที่ดีอาจส่งผลไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ รู้จักกับหมอนรองกระดูก ต้องทำความเข้าใจกับกระดูกสันหลังกันเสียก่อนโดยเป็นแนวกระดูกบริเวณกึ่งกลางตรงด้านหลังของลำตัว ลักษณะของกระดูกจะเป็นข้อๆ ไล่มาตั้งแต่ลำคอจนถึงบริเวณด้านหลังตรงทวารหนัก ซึ่งในระหว่างข้อกระดูกทั้งหมดก็จะมีหมอนรองกระดูกสันหลังอยู่ในแต่ละข้อ หน้าที่ของหมอนรองกระดูกก็คือคอยรับแรงต่างๆ เมื่อร่างกายมีการเคลื่อนไหวรวมถึงยังทำหน้าที่ปกป้องไขสันหลังด้วย โรคหมอนรองกระดูกที่พบบ่อยๆ ส่วนมากแล้วโรคที่เกี่ยวข้องกับหมอนรองกระดูกที่พบบ่อยมากในปัจจุบันนี้ก็คือ ภาวะเหมือนรองกระดูกเสื่อม โดยทั่วไปเรามักจะรู้กันดีว่าสาเหตุของการทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมมาจากอายที่มากขึ้น มีการใช้งานร่างกายอย่างหนักมาเป็นเวลานาน ทว่าที่อันตรายกว่านั้นก็คือภาวะโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมสามารถพบได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไปด้วยซ้ำ สิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นจากภาวะของหมอนรองกระดูกที่แห้งลง เสียความยืดหยุ่นไป สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เราพบอาการดังกล่าวได้บ่อยๆ ก็คือ การนั่งทำงานเป็นเวลานาน, การขับรถเป็นเวลานาน, การทำงานที่เกี่ยวข้องกับการยกของบ่อยๆ รวมถึงการสูบบุหรี่ จากการวิจัยพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่จะทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณหมอนรองกระดูกน้อยลง ส่งผลให้หมอนรองกระดูกเสื่อมได้เร็วขึ้น อาการที่เกิดขึ้นหากเป็นโรคเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก สังเกตได้ง่ายก็คือเวลาที่ก้มยกของหนักหรือเล่นกีฬาที่ต้องมีการบิดตัวอย่างรุนแรงหมอนรองกระดูกก็มีโอกาสเคลื่อนไปกดทับบริเวณเส้นประสาทได้ ที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อของ ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาการที่เกิดคือปวดหลังร้าวลงไปถึงบริเวณขาอาจมีอาการขาชาร่วมด้วย บางคนหากปวดมากถึงขั้นต้องหยุดเดินก่อนชั่วขณะ ความอันตรายก็คือหากปล่อยไว้นานๆ โดยไม่มีการรักษาจะยิ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ ทางที่ดีหากตนเองกำลังรู้สึกว่ามีอาการแปลกๆ อย่างที่ว่ามาควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันที หากปล่อยไว้จะยิ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต

ไขสันหลัง คืออวัยวะที่อยู่ในร่างกาย มีรูปทรงคล้ายท่อยาวๆ โดยมีเนื้อเยื่อประสาทเป็นส่วนสำคัญ ได้แก่ เซลล์ประสาท และ เซลล์ glia โดยเป็นเซลล์ซึ่งมีหน้าที่คอยค้ำจุนเซลล์ประสาท ซึ่งไขสันหลังเป็นส่วนที่ยาวต่อลงมาจากสมอง ไขสันหลังรวมกันกลายเป็นระบบประสาทกลาง โดยอยู่ภายในกระดูกสันหลังซึ่งมีหน้าที่ปกป้องไขสันหลัง และหน้าที่หลักของไขสันหลัง คือ ถ่ายทอดกระแสประสาท จากสมองไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย นอกจากนี้ไขสันหลังยังสามารถควบคุมการเกิด reflex ได้เองด้วย เช่น ให้ยกขาทันทีเมื่อเผลอเหยียบเศษแก้ว เป็นต้น รวมทั้งควบคุมศูนย์สร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวกลาง ไขสันหลังมีความสำคัญในการถ่ายทอดข้อมูล เพื่อให้ร่างกายทำงานตามปกติ ส่งสัญญาณจากสมองและระบบประสาทนอกส่วนกลาง ของผู้ชายมีความยาวประมาณ 45 เซนติเมตร ส่วนของผู้หญิงมีความยาว 43 เซนติเมตร โดยกระดูกสันหลังซึ่งหุ้มไขสันหลังอยู่ ช่วยในการเคลื่อนไหวของร่างกาย มันมีส่วนที่เชื่อมต่อกับกะโหลกศีรษะ , กระดูกสะบัก , กระดูกเชิงกราน และกระดูกซี่โครง ภายในกระดูกสันหลังจะมีโพรงกระดูกด้านในจะมีลักษณะเป็นท่อน้ำ ไล่จากคอลงไปยังก้นกบภายในนี้เต็มไปด้วยน้ำเลี้ยงไขสันหลัง ต่อมาภายในช่องโพรงกระดูกสันหลัง เต็มไปด้วยเส้นประสาทวิ่งลงมา แลดูคล้ายสายไฟจำนวนมาก กำลังลอยอยู่ในท่อน้ำ ตามทั่วไปแล้ว เส้นประสาทไขสันหลังความยาวจะลงมาหยุด ณ กระดูกสันหลังส่วนเอว L1 ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรทราบ เนื่องจากการผ่าตัดกระดูกสันหลังต่างๆ จะทำตั้งแต่ระดับRead more about ไขกระดูกสันหลังของมนุษย์มีความสำคัญอย่างไร[…]